การส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทย: คู่มือการจัดส่งสินค้าระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

การส่งของจากญี่ปุ่นกลับมายังประเทศไทยเป็นกระบวนการที่หลายคนต้องทำเมื่อต้องการซื้อสินค้าจากญี่ปุ่น หรือเมื่อมีสินค้าที่ต้องส่งกลับบ้านไม่ว่าจะเป็นของสะสม, เครื่องใช้ไฟฟ้า, หรือสินค้าแฟชั่นที่มีชื่อเสียงจากญี่ปุ่น การส่งของข้ามประเทศอาจดูเหมือนเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่หากคุณเข้าใจขั้นตอนและมีความรู้เกี่ยวกับตัวเลือกต่าง ๆ ของการส่งของจากญี่ปุ่นกลับไทยจะเป็นเรื่องที่สะดวกและรวดเร็ว

1. ตัวเลือกการส่งของจากญี่ปุ่นกลับมาที่ไทย

เมื่อพูดถึงการส่งของจากญี่ปุ่นกลับมาที่ไทย เรามีหลายตัวเลือกในการขนส่งสินค้าซึ่งสามารถเลือกได้ตามความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการส่งของแบบด่วนหรือส่งของแบบประหยัด ซึ่งจะมีความแตกต่างกันทั้งในด้านราคาและระยะเวลาในการจัดส่ง

1.1 การส่งผ่านบริการขนส่งภายในประเทศญี่ปุ่น (Domestic Shipping)

ก่อนที่สินค้าจะถูกส่งออกจากญี่ปุ่นมายังประเทศไทย ผู้ขายสินค้าหรือคุณเองจะต้องเลือกบริการขนส่งภายในญี่ปุ่นก่อน โดยทั่วไปแล้วสามารถเลือกใช้บริการได้จากบริษัทขนส่งหลัก ๆ เช่น

• Japan Post (ไปรษณีย์ญี่ปุ่น): ไปรษณีย์ญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกที่ประหยัดที่สุดและใช้งานง่าย มักจะมีบริการส่งแบบต่าง ๆ ได้แก่ EMS (Express Mail Service), SAL (Surface Air Lifted), หรือ Airmail

• Yamato Transport (Kuroneko Yamato): เป็นบริษัทขนส่งที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น มีบริการรับ-ส่งสินค้าที่รวดเร็วและปลอดภัย ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ

• Sagawa Express: อีกหนึ่งบริการขนส่งที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น มักจะใช้สำหรับการส่งของขนาดใหญ่หรือการขนส่งพัสดุทางการค้า

1.2 การส่งผ่านบริการขนส่งระหว่างประเทศ (International Shipping)

หลังจากที่สินค้าถูกส่งไปยังสนามบินหรือพอร์ตที่ใกล้ที่สุด การส่งสินค้าจากญี่ปุ่นมายังประเทศไทยจะต้องใช้บริการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งมีหลายตัวเลือกให้เลือก ทั้งในแง่ของความเร็วและราคา

• EMS (Express Mail Service): เป็นบริการของไปรษณีย์ญี่ปุ่นที่ใช้สำหรับการส่งพัสดุด่วนระหว่างประเทศ การส่งผ่าน EMS จะมีความรวดเร็วและสามารถติดตามสถานะการจัดส่งได้อย่างละเอียด แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่า แต่ก็เหมาะสำหรับสินค้าราคาสูงหรือสินค้าที่ต้องการความรวดเร็ว

• Japan Post Airmail: เหมาะสำหรับการส่งของขนาดเล็กหรือสินค้าที่ไม่เร่งด่วนมาก โดยใช้บริการขนส่งทางอากาศที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการใช้ EMS

• Sea Freight (การส่งสินค้าทางเรือ): หากคุณต้องการส่งของขนาดใหญ่หรือจำนวนมาก การส่งทางเรืออาจจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า แม้ว่าจะใช้เวลานานกว่าการส่งทางอากาศ แต่ค่าขนส่งจะถูกกว่าอย่างมาก