เปิดเมื่อ18/06/2012
อัพเดท23/06/2012
ผู้เข้าชม57896
แสดงหน้า64058
จำนวนสินค้า0

สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน


 

พิมพ์หมายเลข EMS 13 หลัก โดยไม่ต้อง เว้นวรรคแล้วกดปุ่ม Search
รายละเอียดเพิ่มเติม
เตาอบขนมปังแบบไหนทำให้ขนมปังหอมที่สุด?
เตาอบขนมปังแบบไหนทำให้ขนมปังหอมที่สุด?
อ้างอิง อ่าน 18 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง

moodeng
 

เตาอบขนมปังแบบไหนทำให้ขนมปังหอมที่สุด?

การอบขนมปังให้ได้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสูตรการทำขนมปัง วัตถุดิบ และที่สำคัญที่สุดคือ เตาอบขนมอุณหภูมิและลักษณะการกระจายความร้อนจากเตาอบมีบทบาทสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพและกลิ่นหอมของขนมปัง ดังนั้นการเลือกเตาอบที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้ขนมปังสุกทั่วถึง แต่ยังทำให้ได้กลิ่นหอมที่ยั่วยวนอีกด้วย

ปัจจัยที่มีผลต่อกลิ่นหอมของขนมปัง

ก่อนที่จะไปถึงประเภทของเตาอบ เรามาดูกันว่าปัจจัยใดบ้างที่มีผลต่อกลิ่นของขนมปัง:

อุณหภูมิที่เหมาะสม: ขนมปังที่อบในอุณหภูมิที่พอดีจะทำให้เกิดกระบวนการ เมลลาร์ด (Maillard Reaction) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนน้ำตาลและโปรตีนในแป้งให้เกิดสีเหลืองทองพร้อมกลิ่นหอม

การกระจายความร้อน: เตาอบที่สามารถกระจายความร้อนอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ผิวของขนมปังสุกเท่ากัน และสร้างกลิ่นหอมได้ดี

ความชื้นในเตาอบ: เตาที่มีระบบเพิ่มไอน้ำในระหว่างการอบจะช่วยให้ขนมปังมีเปลือกที่กรอบและเนื้อสัมผัสที่ดี พร้อมเพิ่มความหอม

ประเภทเชื้อเพลิง: เชื้อเพลิงที่ใช้ เช่น ไม้ ถ่าน หรือแก๊ส สามารถสร้างกลิ่นเฉพาะตัวที่แตกต่างจากเตาไฟฟ้า

ประเภทของเตาอบและผลต่อกลิ่นของขนมปัง

1. เตาอบไฟฟ้า (Electric Oven)

เตาอบไฟฟ้าเป็นที่นิยมในปัจจุบันเพราะใช้งานง่ายและสะดวก

คุณสมบัติเด่น:

มีการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ

มีระบบพัดลมกระจายความร้อน (Convection)

ข้อดี:

ขนมปังสุกทั่วถึง

เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือใช้งานในครัวเรือน

ข้อเสีย:

อาจขาดกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ เพราะไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงแบบไม้หรือแก๊ส

2. เตาอบแก๊ส (Gas Oven)

เตาอบแก๊สเป็นที่นิยมในร้านเบเกอรี่หรือครัวขนาดใหญ่

คุณสมบัติเด่น:

ใช้เปลวไฟในการสร้างความร้อน

ให้ความร้อนที่แรงและต่อเนื่อง

ข้อดี:

ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมจากการเผาไหม้ของแก๊ส

ประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้งานระยะยาว

ข้อเสีย:

การกระจายความร้อนอาจไม่สม่ำเสมอ หากไม่มีพัดลมช่วย

3. เตาอบดินหรือเตาอบไม้ (Wood-Fired Oven)

เตาอบประเภทนี้เป็นเตาอบแบบดั้งเดิมที่ใช้ไม้เป็นเชื้อเพลิง พบได้ในร้านพิซซ่าโบราณหรือครัวเรือนที่เน้นวิถีธรรมชาติ

คุณสมบัติเด่น:

ใช้ไฟจากไม้ในการให้ความร้อน

ผนังเตาทำจากดินเหนียว อิฐ หรือหิน

ข้อดี:

กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์จากควันไม้

ขนมปังที่อบจากเตาประเภทนี้มักมีเปลือกกรอบและเนื้อในนุ่ม

ข้อเสีย:

ใช้เวลานานในการเตรียมเตาให้ร้อน

ต้องอาศัยความชำนาญในการควบคุมอุณหภูมิ

4. เตาอบถ่าน (Charcoal Oven)

เตาอบที่ใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงคล้ายคลึงกับเตาอบไม้ แต่ให้กลิ่นหอมที่แตกต่าง

คุณสมบัติเด่น:

ใช้ความร้อนจากการเผาถ่าน

อุณหภูมิค่อนข้างคงที่เมื่อถ่านถูกเผาจนติดไฟสมบูรณ์

ข้อดี:

สร้างกลิ่นหอมแบบดั้งเดิม

เนื้อสัมผัสของขนมปังกรอบและนุ่ม

ข้อเสีย:

การเผาถ่านอาจใช้เวลานานและต้องควบคุมความร้อนอย่างระมัดระวัง

5. เตาอบไอน้ำ (Steam Oven)

เตาอบประเภทนี้เป็นเตาอบที่ทันสมัย ใช้ทั้งไฟฟ้าและระบบพ่นไอน้ำ

คุณสมบัติเด่น:

เพิ่มความชื้นระหว่างการอบ

ช่วยให้เปลือกขนมปังกรอบและเนื้อในนุ่ม

ข้อดี:

กลิ่นหอมจากความชื้นที่ช่วยดึงรสชาติของวัตถุดิบ

ขนมปังไม่แห้งเกินไป

ข้อเสีย:

ราคาสูงและต้องการการบำรุงรักษา

เตาอบแบบไหนทำให้ขนมปังหอมที่สุด?

หากพิจารณาเฉพาะเรื่องกลิ่น เตาอบที่สร้างกลิ่นหอมที่สุดคือ เตาอบไม้ (Wood-Fired Oven) เพราะควันจากไม้จะซึมเข้าสู่ผิวขนมปังระหว่างการอบ ทำให้มีกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ กระบวนการเผาไหม้ของไม้ยังช่วยสร้างความร้อนสูงที่เหมาะกับการอบขนมปังชนิดต่างๆ

อย่างไรก็ตาม หากมองในเรื่องความสะดวกและการควบคุม เตาอบไฟฟ้าหรือเตาอบแก๊สที่มีฟังก์ชันพ่นไอน้ำก็สามารถทำให้ขนมปังหอมได้ดีเช่นกัน


 
moodeng [172.68.242.xxx] เมื่อ 26/11/2024 15:17
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
รูปประกอบความคิดเห็น :
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
อีเมล์ :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :